พระวินัยปิฎก ปริวาร [อัตถาปัตติสมุฏฐาน] 1. ปาราชิก
อัตถาปัตติสมุฏฐาน
ว่าด้วยสมุฏฐานอาบัติที่มีอยู่
1. ปาราชิก
ว่าด้วยอาบัติปาราชิก
[470] อาบัติที่ภิกษุไม่จงใจต้อง แต่จงใจออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุจงใจต้อง แต่ไม่จงใจออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุไม่จงใจต้อง ไม่จงใจออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุจงใจต้อง จงใจออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นกุศลต้อง มีจิตเป็นกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นกุศลต้อง แต่มีจิตเป็นอกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นกุศลต้อง แต่มีจิตเป็นอัพยากฤตออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง แต่มีจิตเป็นกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง มีจิตเป็นอกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง แต่มีจิตเป็นอัพยากฤตออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง มีจิตเป็นกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง แต่มีจิตเป็นอกุศลออก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง แต่มีจิตเป็นอัพยากฤตออก มีอยู่
สิกขาบทที่ 1
ถาม : ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบ : ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน คือ เกิด
ทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต
พระวินัยปิฎก ปริวาร [อัตถาปัตติสมุฏฐาน] 2. สังฆาทิเลส
สิกขาบทที่ 2
ถาม : ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบ : ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน คือ (1) เกิด
ทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (2) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (3) เกิด
ทางกายวาจากับจิต
สิกขาบทที่ 3
ถาม : ปาราชิกสิกขาบทที่ 3 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบ : ปาราชิกสิกขาบทที่ 3 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน คือ (1) เกิด
ทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (2) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย
(3) เกิดทางกายวาจากับจิต
สิกขาบทที่ 4
ถาม : ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบ : ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน คือ (1) เกิด
ทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (2) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย
(3) เกิดทางกายวาจากับจิต
ปาราชิก 4 สิกขาบท จบ
2. สังฆาทิเสส
ว่าด้วยอาบัติสังฆาทิเสส
สิกขาบทที่ 1
[471] ถาม : สังฆาทิเสสของภิกษุผู้จงใจทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน เกิดด้วยสมุฏฐาน
เท่าไร
